วันนี้ (14 ส.ค.) นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า เร็ว ๆ นี้ ตนจะเสนอหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รูปแบบใหม่ ให้นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) และ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ.พิจารณา ดังนี้ การสอบภาค ก ความรอบรู้และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู จะให้หน่วยงานกลาง ที่ได้มาตรฐานจัดสอบ และเกณฑ์ คือผ่านกับไม่ผ่านเท่านั้น ซึ่งโดยหลักต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 60 จึงจะมีสิทธิสอบภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง และภาค ค สอบสัมภาษณ์
“ผู้ที่สอบภาค ก ได้คะแนนร้อยละ 80 กับคนที่สอบได้ร้อยละ 60 ก็มีสิทธิที่จะเข้าสอบภาค ข และ ภาค ค ได้เหมือนกัน โดยไม่นำคะแนนทั้ง 3 ภาคมารวมเพื่อตัดสินเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้การสอบภาค ข และ ภาค ค ทางคณะทำงาน มี 2 แนวทาง ที่จะเสนอให้ รมว.ศธ. พิจารณา คือ แนวทางแรก ให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) จัดสอบ ภาค ข และภาค ค โดยในส่วนของการสอบภาค ค ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีตำแหน่งครูผู้ช่วยว่าง มาร่วมเป็นกรรมการสอบด้วย และ แนวทางที่สองคือ กศจ. จัดสอบ ภาค ข แต่ยังไม่แจ้งคะแนน และ ให้โรงเรียนที่มีศักยภาพเพียงพอ จัดสอบภาค ค เอง จากนั้นค่อยนำคะแนนมารวมและประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก ซึ่งวิธีนี้จะป้องกันไม่ให้เกิดการมีส่วนได้ส่วนเสีย ” นายพินิจศักดิ์ กล่าว
เลขาธิการก.ค.ศ. กล่าวด้วยว่า ภายหลังการหารือสำนักงาน ก.ค.ศ. จะนำข้อแนะนำของ รมว.ศธ. และปลัดศธ. มาปรับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกใหม่ให้เหมาะสม ซึ่งตามนโยบายจะต้องประกาศใช้หลักเกณฑ์ใหม่ให้ทันในการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วย ปี 2561 ซึ่งเท่ากับว่า ช้าสุดต้องประกาศภายในเดือนมกราคม 2561 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการจัดสอบได้ทันตามที่กำหนด ส่วนการกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู สามารถมาสอบคัดเลือกเป็นครูช่วยได้ด้วยนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของก.ค.ศ. เป็นเรื่องที่ทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ต้องไปกำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน ทั้งนี้ในส่วนของ ก.ค.ศ. กำหนดไว้ชัดเจนแล้ว คือ ต้องมีใบอนุญาตฯ ก่อนวันบรรจุแต่งตั้ง เท่านั้น