นักวิชาการ จุฬาฯ จี้ทบทวนสมศ.อยู่ในศธ. ผลเสียเพียบ ย้ำถ้ายังเดินหน้ายุบ สมศ.ดีกว่าเพราะถอยหลังเข้าคลอง ชี้รัฐบาลดึงสมศ.มา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประเมินออกมาดี ขณะที่”สุชัชวีร์”ย้ำสมศ.สร้างภาระมหา’ลัย ต้องปรับการประเมินใหม่
วันนี้( 26 มิ.ย.) ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) มาอยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ขณะนี้ ทปอ.กำลังดูเรื่องความสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยกับสมศ.อยู่ เนื่องจากที่ผ่านมาการประเมินของสมศ. ค่อนข้างจะเป็นภาระกับมหาวิทยาลัยพอสมควร อีกทั้งการประเมินก็ไม่ได้สะท้อนคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง ที่สำคัญไม่ได้สะท้อนเรื่องการแข่งขันด้วย ทั้งที่มหาวิทยาลัยบางแห่งมีความสามารถไปแข่งขันระดับโลกได้ ซึ่งตนก็ยังตอบไม่ได้ว่าการที่ สมศ. มาอยู่ในกำกับของศธ.แล้วจะมีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร แต่สมศ.จะอยู่ที่ไหนก็ตามสิ่งที่สำคัญอยู่ที่รูปแบบและกระบวนประเมินของ สมศ. มากกว่า เนื่องจากในอดีตการประเมินค่อนข้างจุกจิก ไม่เอื้อต่อความเป็นอิสระของมหาวิทยาลัยเท่าที่ควร
ด้านศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่ สมศ.มาอยู่ในกำกับของ ศธ. เพราะมีข้อเสียมากกว่าข้อดี เพราะศธ. กำกับดูแลสถานศึกษาทั่วประเทศ เมื่อสมศ.มาอยู่ในศธ.เหมือนกับว่าหน่วยงานราชการประเมินกันเอง ซึ่งจะทำให้ผลการประเมินไม่สะท้อนคุณภาพการจัดการศึกษาที่แท้จริง ส่อแววช่วยเหลือเกื้อกูลกัน หรือหมกเม็ดข้อมูล และอาจจะมีการรายงานผลการประเมินที่ไม่ตรงไปตรงมา ทั้งนี้ต้องยอมรับว่ากระบวนการประเมินของ สมศ. เป็นภาระ ซึ่งสะท้อนความผิดพลาดในระบบประเมินของสมศ. ดังนั้นตนเห็นด้วยที่จะต้องปฏิรูปการประเมินของสมศ. และรัฐบาลก็อาจมองเรื่องนี้ จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการดึงสมศ.มาอยู่ในกำกับศธ. แต่ไม่ใช่การดึงมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของศธ. ทั้งที่สมศ. มีกฎหมายที่ระบุอำนาจหน้าที่ไว้อย่างชัดเจน
“การที่รัฐบาลดึงสมศ.มาอยู่ใน ผมว่าควรยุบสมศ. ทิ้งดีกว่า เพราะเหมือนการถอยหลังเข้าคลอง ทำการประเมินแบบรู้ไส้รู้พุง เป็นการประเมินโดยความต้องการของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่การประเมินตามข้อเท็จจริง อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่าการที่รัฐบาลตัดสินใจเช่นนี้ มีประเด็นอื่นแอบแฝงอยู่หรือไม่ หรือต้องการจะใช้ผลการประเมินของสมศ. มาช่วยดึงให้ภาพลักษณ์การจัดการศึกษาของประเทศดีขึ้น ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ และ อยากให้รัฐบาลคิดเรื่องนี้ใหม่ ” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว