กรณี น.ส.วนาลี ทุนมาก หรือครูแอน อายุ 27 ปี และ น.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี หรือ ครูวัลย์ อายุ 26 ปี 2 ครูสาวได้รับการเรียกบรรจุและแต่งตั้งให้เป็นครูผู้ช่วยสอนวิชาสังคมศึกษา ที่โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม จ.ตาก แต่สอนได้แค่ 5 เดือน ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 38 (สุโขทัย-ตาก) แจ้งว่าคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ตาก มีมติไม่อนุมัติการขอปรับเปลี่ยนวิชาเอกและขอเพิ่มเติมตำแหน่งว่างโรงเรียนอุ้งผางวิทยาคม และไม่อนุมัติการบรรจุแต่งตั้งทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งครูผู้ช่วย ต่อมานายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้เดินทางมาที่จังหวัดสุโขทัยเพื่อสอบถามรายละเอียดพร้อมเยียวยา โดยเบื้องต้นมอบเงินจากกองทุนสวัสดิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวนหนึ่ง พร้อมกันนั้นได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงและประสานโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาที่คนทั้งคู่เป็นศิษย์เก่า เพื่อจ้างเป็นครูอัตราจ้างชั่วคราว โดยครูแอน เป็นครูอัตราจ้าง ที่โรงเรียนเมืองเชลียง จ.สุโขทัย และครูวัลย์ เป็นครูอัตราจ้าง ที่โรงเรียนเลยพิทยาคม จ.เลย ในระหว่างรอนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณาเรื่องกลับเข้ารับราชการนั้น
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ความสนใจและติดตามกรณีของครูวนาลี และครูนิราวัลย์ มาโดยตลอด และบอกว่าเรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของภาครัฐ ไม่ใช่ความผิดของครูทั้งสอง จึงสั่งการให้ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดศธ. และตนเร่งดำเนินการให้ครูทั้ง 2 คนกลับมาปฏิบัติหน้าที่โดยเร็วที่สุด ซึ่งตนได้แจ้งเรื่องนี้กับครูทั้ง 2 คนแล้วว่ารัฐมนตรีว่าการศธ. มีความห่วงใยและสั่งการดังกล่าว โดยขณะนี้สพฐ.ได้ตั้งคณะทำงาน 3 ส่วน เพื่อดูแลแก้ไขปัญหาให้ครูทั้ง 2 คนได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่โดยเร็วที่สุด ประกอบด้วย นายวัลลพ สงวนนาม สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และนายชูชาติ ทรัพย์มาก ที่ปรึกษาสพร.และฝ่ายกฎหมาย เพื่อไปทำงานร่วมกับนายสุรินทร์ แก้วมณี ผู้ช่วยปลัดศธ. และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)โดยคณะทำงานชุดนี้จะไม่เกี่ยวกับเรื่องการสืบหาข้อเท็จจริงของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่จะเร่งช่วยให้ครูได้กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ให้ได้ก่อน
“เรื่องการสืบหาข้อเท็จจริงยังคงดำเนินต่อไป แต่ตอนนี้เราต้องช่วยครูก่อน เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนเดิมได้ และต้องได้รับการดูแลเรื่องสิทธิย้อนหลังด้วย เหมือนรถชนกันแล้วมีคนเจ็บ ก็ต้องช่วยคนเจ็บก่อน” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว