ปลัดศธ.มอบศธจ. แกนหลักประสานงานกำหนดขอบเขต จัดสรรการรับเด็กก่อนวัยเรียน ย้ำพยายามรักษาสัดส่วนการรับเดิมเอาไว้ สพฐ.พัฒนาครู จัดการเรียนการสอนเชิงวิชาการ
ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 54 ที่ระบุให้รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ออกแนวปฏิบัติการรับเด็กเข้าศึกษา ปีการศึกษา 2560 โดยแบ่งโซนการรับเน้นให้ท้องถิ่นดำเนินการ และสพฐ.เข้าไปดำเนินการในส่วนที่ไม่มีหน่วยงานใดจัด ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ มีโรงเรียนเอกชนในจังหวัดอุทัยธานี ร้องเรียกมาว่ามีโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดรับนักเรียนก่อนวัยเรียนอายุ 3 ปี ทั้งๆ ที่มีโรงเรียนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)และโรงเรียนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อยู่แล้ว มีบางจังหวัดที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มอบให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) สังกัด สพฐ. เป็นผู้จัดการศึกษาในระดับก่อนวัยเรียนทั้งหมดด้วย
ปลัด ศธ.กล่าวต่อไป จากการที่มีการหารือร่วมระหว่างหน่วยงานที่จัดการศึกษาในระดับก่อนวัยเรียน อาทิ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนถิ่น สพฐ.เป็นต้น ได้ข้อสรุปว่าการจัดการศึกษาก่อนวัยวัยเรียนตั้งแต่อายุ 3 ปีขึ้นไป ต้องมีการร่วมมือกันในระดับจังหวัดจึงมอบให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เป็นแกนหลักในการประสานงานกำหนดขอบเขต รวมถึงการจัดสรรการรับเด็กก่อนวัยเรียน โดยหลักการ คือจะพยายามรักษาสัดส่วนการรับเดิมเอาไว้ เช่น อปท.จัดการศึกษาในระดับ 1-3 ปี ก็จะไม่ขยายมาจัดในระดับ 4 ปี นอกจากจะเป็นสถานศึกษาที่มีความพร้อมอย่างมาก ขณะเดียวกันทาง สพฐ. ก็จะไม่ขยายชั้นเรียนในระดับ 3 ปี นอกจากสถานศึกษาดังกล่าวจะอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสถานศึกษาในสังกัด อปท. หรือ สช.จัดการศึกษาระดับ 3 ปี หรือ ในพื้นที่ที่เด็กอายุ 3 ปีจำนวนมากเกินกว่าที่ สช.และ อปท. จะรับได้ ซึ่งทางที่ประชุมยังได้มอบ สพฐ.เป็นหลักในการพัฒนาครู รวมถึงพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเชิงวิชาการด้วย
นอกจากนี้ทุกหน่วยงานที่จัดการศึกษาในระดับก่อนวัยเรียน จะต้องประมาณการนักเรียนที่จะเข้าศึกษาในระดับ 3 ปี เพื่อขอแปรญัตติ โดยอัตรารายหัวที่จะอุดหนุนเด็กก่อนวัยเรียนก็จะเท่ากับอัตราในปัจจุบัน คือ ค่าเรียน 1,700 บวกกับค่าเรียนฟรีอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมข้อมูลของเด็กก่อนวัยเรียนขณะนี้ถือว่ายังไม่นิ่ง อย่างเด็ก 3 ขวบ มีอยู่ประมาณ 7 แสนกว่าคน ซึ่งเป็นข้อมูลของการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่ใช่การศึกษาภาคบังคับ เด็กจะเข้าเรียนหรือไม่เรียนก็ได้ ทั้งนี้หลังจากที่แต่ละหน่วยงานทำการประมาณการศักยภาพและแผนที่จะเปิดรับเด็กก่อนวัยเรียนแล้ว ก็คงต้องมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อที่จะหาข้อสรุปจากแผนการรับดังกล่าวในภาพรวม